ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า “โครงการ Startup Thailand League เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้แผนการส่งเสริมสตาร์ทอัพของประเทศ ในการบูรณาการการทำงานร่วมกันของภาครัฐ สถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ในการสร้างระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมที่จะจุดประกายและส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ รวมทั้งก่อให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จะส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจจากความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ พร้อมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 มีนักศึกษาจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการนี้กว่า 74,000 คน เกิดไอเดียธุรกิจสตาร์ทอัพ มากกว่า 3,700 ไอเดีย ต่อยอดจัดตั้งเป็นบริษัทแล้วมากกว่า 70 บริษัท สร้างรายได้รวมต่อปีมากกว่า 100 ล้านบาท เกิดการกระจายตัวของสตาร์ทอัพไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเกิดการจ้างงานและสร้างความมั่นคงให้แก่ชุมชน
สำหรับปี 2567 โครงการ Startup Thailand League 2024 2024 มีนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมทั้งหมด 250 ทีม จากมหาวิทยาลัยเครือข่าย 45 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน โดยผ่านกิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) กิจกรรม Train the Trainer การอบรมองค์ความรู้พัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ ให้แก่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้ประสานงานของมหาวิทยาลัยเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ Startup Thailand League จำนวน 45 มหาวิทยาลัย เพื่อนำไปพัฒนานิสิต นักศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจในการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ 2) กิจกรรม Coaching Camp ใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ กิจกรรมอบรมเตรียมความพร้อม เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้เทคนิควิธีคิดต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพ เพิ่มทักษะการนำเสนอ และได้ทดลองนำเสนอไอเดียก่อนลงสนามจริง 3) กิจกรรม Pitching Startup Thailand League เป็นการประกวดแข่งขันไอเดียแผนงานธุรกิจสตาร์ทอัพของนิสิต นักศึกษา ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ
ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้อบรมและเมนเทอร์ภายใต้โครงการนี้มุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะบ่มเพาะ เร่งสร้างการเติบโตให้แก่เหล่าเมล็ดพันธุ์สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทุกทีม สู่การเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ในภาคธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสังคม มีศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อประเทศ
และจากการเฟ้นหาสุดยอดสตาร์ทอัพหน้าใหม่ทั้ง 4 ภูมิภาค มีเพียง 14 ทีม ที่ผ่านเข้าถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายของ Startup Thailand League 2024 ระดับประเทศ โดยทั้ง 14 ทีมนี้ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเองต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศทั้ง 6 ท่าน ได้แก่ คุณสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Startup, คุณชลิตา สมุทรรัตน์ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, คุณนุชนาถ คุณความดี ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ประกอบการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, คุณปฤษฎา หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาอิสระด้านพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยี, คุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Ted Fund)
ทีมผู้ชนะเลิศ Startup Thailand League 2024 ระดับประเทศ ได้แก่
● ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม MedStream Innovations สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 50,000 บาท จากผลงานผลิตและออกแบบอุปกรณ์ อวัยวะบนชิป (Organ-on-chip) ตามความต้องการของนักวิจัยเชิงการแพทย์และเภสัชศาสตร์
● รองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Scamtify มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 30,000 บาทจากผลงาน แพลตฟอร์ม สำหรับตรวจสอบมิจฉาชีพออนไลน์ ได้ง่าย ๆ ในคลิกเดียว เพื่อให้คุณใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจมากขึ้น
● รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม DigiPeak มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 20,000 บาท จากผลงาน ระบบอากาศยานไร้คนขับอัตโนมัติสำหรับเกษตรกรรมแม่นยำสูง
นอกจากนี้ ยังมีรางวัล University of The Year สำหรับมหาวิทยาลัยที่ได้ร่วมผลักดันทีมนักศึกษาสู่ชัยชนะ ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ดร.กริชผกา กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีแก่ทีมน้องๆ นักศึกษาที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ทุกทีมล้วนเป็นตัวแทนดาวรุ่งแห่งวงการสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากทีมผู้ทรงคุณวุฒิ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่น ในการนำเสนอไอเดียนวัตกรรม เพื่อพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสังคมอย่างแท้จริง โครงการ Startup Thailand League คือจุดเริ่มต้นของการสร้างและการบ่มเพาะการเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย จากจุดนี้ไป ยังมีกลไกภาครัฐต่างๆ รวมถึงกลไกของ NIA มาสนับสนุนน้องๆ ทั้งการให้ทุนผู้ประกอบการและการเชื่อมโยงกับนักลงทุนต่างๆโดยเรามุ่งหวังว่าในอนาคต จะได้เห็นน้องๆ เติบโตต่อไปจนถึงระดับยูนิคอร์นของประเทศ”